Telehouse เปิดตัว ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีการเชื่อมต่อที่มากที่สุดในไทยเพื่อขยายธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุงเทพฯ 12 มกราคม 2565 – วันนี้ Telehouse ผู้ให้บริการโคโลเคชั่นระดับโลกประกาศแถลงข่าวเรื่องแผนที่จะเปิด ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะอย่าง (Purpose-Built) ที่เน้นด้านการเชื่อมต่อแห่งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งมุ่งเป้าขยายธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Telehouse จับมือกับบริษัทแม่ KDDI ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการรวมระบบ (System Integrator)
ติดอันดับหนึ่งใน 300 ของ Global Fortune และมีสำนักงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น มีแผนที่จะเปิดดาต้า เซ็นเตอร์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีพื้นที่ 9,000 ตรม. ด้วยกำลังไฟ 9.5MVA ภายในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2566 โดยใช้ชื่อบริษัทว่า “Telehouse Thailand” และมีชื่อไซต์ว่า Telehouse Bangkok ในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นไซต์แห่งที่สามของบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากที่สิงคโปร์และเวียดนาม และนับเป็นหนึ่งในดาต้า เซ็นเตอร์ของ Telehouse กว่า 45 แห่งทั่วโลก
Telehouse คร่ำหวอดในวงการผู้ให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์แบบ Carrier Neutral อย่างแท้จริงมานานกว่า 30 ปี และดาต้า เซ็นเตอร์แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ จะสามารถตอบสนองความต้องการการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยที่กำลังจะเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
นอกจากนี้ Telehouse ซึ่งได้ให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์แบบ Carrier Dense ที่มีการเชื่อมต่อได้หลากหลายจุดในลอนดอนและปารีส จะให้บริการด้านดาต้า เซ็นเตอร์ซึ่งมีมาตรฐานสากลได้ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม อินเตอร์เน็ต และคลาวด์ด้วยค่าความหน่วง (Latency) ต่ำได้
ดาต้า เซ็นเตอร์รุ่นใหม่นี้จะเป็นเจ้าแรกในตลาดซึ่งเตรียมเส้นทางเชื่อมต่อไฟเบอร์จากภายนอกได้ 4 เส้นทางเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกสำรองการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ยังประกอบไปด้วยแหล่งจ่ายไฟสำรองที่มีสถานีย่อย 2 แห่ง อีกทั้งผู้ใช้งานจะอุ่นใจยิ่งขึ้นเพราะยังมีเครื่องสำรองไฟที่เชื่อถือได้ในกรณีที่ไฟดับ รวมถึงมีระบบระบายความร้อน และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
Telehouse Bangkok ตั้งอยู่ที่ย่านพระราม 9 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจใกล้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานที่ตั้งเครือข่ายผู้ให้บริการเครือข่ายในพื้นที่ ลูกค้าจึงสามารถใช้งานเครือข่ายคุณภาพระดับพรีเมี่ยมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มากกว่านั้น ด้วยการที่เป็นดาต้า เซ็นเตอร์สร้างใหม่ จึงสามารถรองรับแผนการใช้งานของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่นคล่องตัวมากขึ้น โดยรวมถึงการเติบโตในอนาคตด้วย
คุณเคนอิจิ มิยาชิตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท Telehouse Thailand กล่าวว่า “Telehouse Bangkok จะเป็นดาต้า เซ็นเตอร์แห่งแรกในแบบของธุรกิจเอกลักษณ์นี้ที่กรุงเทพฯ และเป็นการเปิดตลาดดาต้า เซ็นเตอร์ในไทยในช่วงเวลาอันเหมาะสมเพราะเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเฟื่องฟู อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการพลิกโฉมอุตสาหกรรม 4.0 รัฐบาลไทย Telehouse Bangkok มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการคอนเทนต์ โทรคมนาคม และ ISP เพื่อเชื่อมต่อระหว่างกันโดยให้เกิดค่าความหน่วงต่ำที่สุด Telehouse Bangkok เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลในประเทศไทย และยกระดับมาตรฐานดาต้า เซ็นเตอร์และการเชื่อมต่อในภูมิภาคนี้อีกด้วย”
Samsung จะปล่อยตัว Exynos 2200 พร้อมกับ S22 Series
Samsung ได้ออกมาแก้ข่าว พร้อมทั้งประกาศถึงการเตรียมจะปล่อยตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Exynos 2200 ไปพร้อมกับการเปิดตัว/ปล่อยจำหน่าย Galaxy S22 Series เมื่อวานนี้ (12 ม.ค. 2565) Samsung ทำการให้สัมภาษณ์ปฏิเสธถึงข่าวปัญหาต่าง ๆ ของชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Exynos 2200 พร้อมทั้งเปิดเผยว่าการเลื่อน หรือการเปลี่ยนแผนปล่อยตัวชิปเก่านั้น เนื่องมาจากต้องการจะให้พร้อมกับการเปิดตัว/ปล่อยจำหน่าย Galaxy S22 Series สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่จะมีการปล่อยตัวในเร็ว ๆ นี้
โดยการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวนั้น ทางซัมซุงได้ให้ไว้กับสำนักพิมพ์ Business Korea ซึ่งก็ได้อธิบายว่าทุกอย่างที่เกี่ยวของกับ Exynos 2200 นั้น ถือว่าเป็นไปอย่างดี ไม่พบปัญหาทั้งในส่วนของประสิทธิภาพ และการผลิตแต่อย่างใด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็เพื่อที่จะให้พร้อมกับ Galaxy S22 Series เท่านั้น
“พวกเราวางแผนที่จะทำการปล่อยตัว/เปิดเผยตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันกับการปล่อยตัวของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ โดยทางเราไม่พบปัญหาในการผลิต และประสิทธิภาพของตัวชิปประมวลผลแต่อย่างใด”
ทำให้ก็ดูพอมีความเป็นไปได้ว่า Samsung อาจจะยังคงจะใช้งานชิปรุ่นนี้บน Galaxy S22 Series แต่ทั้งนี้แล้วนั้น ก็ต้องมาดูกันอีกทีในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ว่า มันจะเปิดตัวพร้อมกับแบบใช้งานด้วยกัน หรือแค่เปิดตัวแบบเคียงข้างกันเฉย ๆ ก็ต้องรอดูกันในวันนั้นนะครับ
Airbnb ยังได้ปรับปรุงการสนับสนุนชุมชนด้วยการเพิ่มจำนวนตัวแทนและขยายการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ มากขึ้นถึง 2 เท่า รวมถึงการขยายความครอบคลุมด้านภาษาจากเดิม 11 ภาษา เป็น 42 ภาษา อีกด้วย ทั้งนี้ ศูนย์ช่วยเหลือ Help Center ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดจะทำให้การใช้งานแพลตฟอร์มนั้นได้ง่ายขึ้นและยังสามารถปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งโฮสต์และเกสต์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
