ตำรวจจับกุม 3 วัยรุ่น ก่อเหตุ ปล้นตราพระเกี้ยว รับสารภาพทำจริง อ้างเมาใบกระท่อม ทำเพื่อความสะใจ ยืนยันไม่รู้จักนักเรียนมาก่อน พลตำรวจตรี พรชัย ขจรกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ออกมารายงานความคืบหน้า หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวินาทีวัยรุ่น ชิงตราพระเกี้ยว จากนักเรียนบดินทรเดชา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน เวลาประมาณ 15.00 น. จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดั่งที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนได้แล้ว
จากการตรวจสอบเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี และไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนใด ทั้งสามยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยช่วงก่อนลงมือแย่งพระเกี้ยวนั้น ได้เสพน้ำกระท่อม จนเกิดอาการเมา และขี่รถจักรยานยนต์ออกมาด้านนอก ในจังหวะขี้จักรยานยนต์ออกมาก็ได้พบนักเรียนกลุ่มดังกล่าว และด้วยความคึกคะนองและมึนเมา จึงก่อเหตุทำร้ายร่างกายและขโมยตราพระเกี้ยวโรงเรียนบดินทรเดชา ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเองไม่เคยก่อเหตุดังกล่าวมาก่อนกระทำไปเพราะฤทธิ์จากการเมากระท่อมและความคึกคะนอง
ยืนยันไม่เคยมีปัญหาหรือความบาดหมางกับนักเรียนในคลิปมาก่อนแต่อย่างใด และไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วย ก่อนหน้านี้ คนร้ายสองคนได้สวมหมวกกันน็อก และเดินตรงไปหาเด็กนักเรียนบดินทร ที่เดินกันมาเป็นกลุ่ม และแย่งพระเกี้ยว จากนักเรียนที่เดิมนำ โดยนักเรียนที่โดนแย่งพระเกี้ยวก็ไม่ยอมพยายามยื้อ ในจังหวะนั้นคนร้ายได้กระชากมีดออกมาขู่ ทำให้นักเรียนต้องยอม แต่ตอนคนร้ายจะหลบหนีไปนั้น ยังได้ต่อยเข้าใบหน้าของนักเรียนคนดังกล่าวอีกที
กลายเป็นเหตุระทึกอีกครั้งหลัง วัยรุ่นใช้มีดขู่ นักเรียน ม.4 เพื่อ แย่งตราพระเกี้ยว แถมมีต่อยซ้ำด้วย ผู้โพสต์ถาม เอาไปทำอะไร?
ทวิตเตอร์ Red Skull ได้เผยแพร่คลิปนาทีระทึกที่ถูกจับได้โดยกล้องหน้ารถ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน เวลาประมาณ 15.00 น. พร้อมข้อความกำกับระบุว่า “เมื่อวานเอามีดจี้เงินเด็กหอวัง วันนี้น้องนักเรียนบดินทรโดนมีดจี้อีก พรุ่งนี้มันจะไปจี้ รร.ไหนวะ ตำรวจต้องกำลังแล้ว เอาความปลอดภัยของเด็กก่อน จับได้น่ากระทืบให้ตายจริงๆ ไอ้พวกขยะสังคม”
จากภาพจะเห็นได้ว่า คนร้ายสองคนได้สวมหมวกกันน็อก และเดินตรงไปหาเด็กนักเรียนบดินทร ที่เดินกันมาเป็นกลุ่ม และแย่งพระเกี้ยว จากนักเรียนที่เดิมนำ โดยนักเรียนที่โดนแย่งพระเกี้ยวก็ไม่ยอมพยายามยื้อ ในจังหวะนั้นคนร้ายได้กระชากมีดออกมาขู่ ทำให้นักเรียนต้องยอม แต่ตอนคนร้ายจะจากไปนั้น ยังได้ต่อยเข้าใบหน้าของนักเรียนคนดังกล่าวอีกที
หลังเกิดเหตุนั้น ชายที่นั่งอยู่ในรถคันหน้าก็ได้ลงมาดู และพูดคุยกับนักเรียน ที่ถูกทำร้าย ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วรึยัง เบื้องต้นทางโรงเรียนได้แจ้งให้นักเรียนที่กลับบ้านเองเก็บพระเกี้ยวเพื่อความปลอดภัย
หญิงนอกใจสามี สูญเงินกว่า 7 หมื่น หลงมิจฉาชีพใช้รูปโปรไฟล์ดาราเกาหลี
สแกมเมอร์เกาหลี แอบใช้รูปโปรไฟล์ ลีมินโฮ ดาราดังเกาหลี หลอกรัก หญิงสิงห์บุรี ก่อนสูบเงินผู้เสียหายซึ่งมีสามี 1 ลูก 1 ครั้งละหลายหมื่น เบ็ดเสร็จรวมแล้วสูญเงินไปกว่า 7 หมื่น
กลายเป็นข่าวดัง กรณีหญิงสาวจังหวัดสิงห์บุรีรายหนึ่ง ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างใช้รูปโปรไฟล์ ลีมินโฮ ดาราชายเกาหลีชื่อดัง ทำทีหลอกให้รัก ก่อนจะอ้างเหตุผลจนเหยื่อตายใจ โอนเงินมาให้ครั้งละหลายหมื่นบาท โดยรายงานจากช่อง ทุบโต๊ะข่าว ระบุ มิจฉาชีพทำเป็นออกอุบายว่า ถูกจับที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระหว่างเดินทางมาจากเกาหลีใต้ ต้องใช้เงินประกัน 15,000 บาท อ้างจะคืนให้ภายหลัง แถมก่อนหน้านี้ก็เคยติดต่อมาขอให้โอนเงิน 25,000 บาท เป็นค่าตรวจโควิด-19 ด้วย
นอกจากนี้คนร้ายยังอ้างว่ามีเงินฝากในบัญชีไว้มากถึง 44 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้ตามคำร้องขอ รวมกว่า 70,000 บาท โดยหลังจากผู้เสียหายทราบว่าถูกมิจฉาชีพหลอกก็เสียใจหนักถึงขั้นพยายามปลิดชีพตัวเอง แต่เคราะห์ดีที่มีคนมาช่วยได้ทัน
ด้าน สามีที่มาทราบว่าตนเองนั้นถูกนอกใจ หลังพยายามสอบถามสาเหตุที่ภรรยาพยายามจะฆ่าตัวตาย เป็นเพราะไปเสียท่าโอนเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ โดยฝ่ายภรรยาสารภาพว่า ได้โอนเงินไปให้ชายเกาหลี ที่รู้จักกันผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ คุยกันแบบสนิทสนม โดยในบทสนทนา ชายคนดังกล่าวเรียกว่า “ที่รัก” ทุกคำ
ทั้งนี้ สามีของผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ขณะนี้ได้นำหลักฐานทุกอย่างไปแจ้งความดำเนินคดีกับชายปริศนาและหาเจ้าของบัญชีธนาคารที่ภรรยาโอนเงินไปว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับชายที่มาหลอกหรือไม่ โดยตอนนี้รู้สึกสงสารภรรยาเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องก็มีอาการจิตตกอย่างหนัก นั่งร้องไห้ตลอดเวลา ต้องให้พนักงานในร้านช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับครอบครัวของเรา และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป